วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


อาหารเด็กวัยก่อนเรียน 1 – 3 ปี 
             เด็กเมื่อพ้นอายุ 1 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 5 ปี จัดอยู่ในวัยก่อนเรียนซึ่งแบ่งเป็น 1 – 3 ปี และ 4 – 5 ปี เด็กวัยนี้ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างช้าๆ แต่การเจริญเติบโตทางสังคม ลักษณะนิสัย และทางอารมณ์ เกิดขึ้นอย่างมากในวัยนี้ พฤติกรรมการบริโภคจะพัฒนาในช่วงวัยเด็กและจะติดตัวไปจนเป็นวัยผู้ใหญ่ดังนั้น การสร้างนิสัยการกินที่ดีตั้งแต่เด็กจะส่งผลต่อไปในอนาคต จากตารางปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2546 กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเด็กวัยก่อนเรียนอายุ 1 – 3 ปี ควรมีน้ำหนัก 13 กิโลกรัม สูง 90 เซนติเมตร ควรได้รับพลังงานและสารอาหารใน 1 วัน ดังนี้
พลังงาน 1,000 กิโลแคลอรี           โปรตีน 18 กรัม                        วิตามินเอ 400 ไมโครกรัม
วิตามินซี 40 มิลลิกรัม                   ไธอะมิน 0.5 มิลลิกรัม                 ไรโบฟลาวิน 0.5 มิลลิกรัม
โฟเลท 150 ไมโครกรัม                  ไนอะซิน 6 มิลลิกรัม                   แคลเซียม 500 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 460 มิลลิกรัม                แมกนีเซียม 60 มิลลิกรัม               เหล็ก 5.8 มิลลิกรัม
ไอโอดีน 90 ไมโครกรัม                 สังกะสี 2 มิลลิกรัม

เพื่อให้เด็กวัยก่อนเรียน อายุ 1 – 3 ปี ได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอใน 1 วัน ควรได้รับอาหาร ดังนี้
หมู่
อาหาร
ปริมาณ
หมายเหตุ
หมู่ที่ 1



หมู่ที่ 2

หมู่ที่ 3

หมู่ที่ 4
หมูที่ 5
นม
ไข่
เนื้อสัตว์ต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้ง

ข้าวสุก ก๋วยเตี๋ยว มักกะโรนี ขนมปัง

ผักใบเขียว ผักสีส้ม
สีเหลือง

ผลไม้สด
น้ำมันจากพืช จากสัตว์ เนย กะทิ
1 – 3 แก้ว
1 ฟอง
3 ช้อนกินข้าว


3 – 4 ½ ทัพพี

1 ½ ทัพพี

3 ส่วน
2 – 3 ช้อนชา
  • ควรให้เด็กดื่มนมรสจืด
  • เป็นไข่เป็ด หรือไข่ไก่ก็ได้แต่ควรปรุงให้สุก
  • ให้กินเนื้อสัตว์หลากหลาย หมุนเวียนกันไปควรให้กินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถ้าเป็นปลาต้องระวังในเรื่องก้าง และถ้าเป็นปลาทะเลเด็กก็จะได้รับไอโอดีนด้วย
  • อาหารในกลุ่มนี้ให้กินข้าวเป็นหลัก ถ้าเป็นไปได้ให้กินข้าวไม่ขัดสีจนขาว จะได้ประโยชน์มากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว และให้กินอย่างอื่นสลับบ้างเพื่อไม่ให้เด็กเบื่อ
  • อาจเป็นผักสดหรือทำให้สุก ผักให้วิตามินเกลือแร่ และใยอาหารซึ่งใยอาหารจะช่วยในการขับถ่าย
  • ควรเป็นผลไม้ตามฤดูกาล และเลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัด
  • ควรเลือกใช้น้ำมันจากพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง

หลักการจัดอาหารสำหรับเด็กวัยก่อนเรียน
     1. จัดอาหารให้มีคุณค่าทางโภชนาการในมื้อหลักควรมีอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้เด็กวัยนี้ได้พลังงานและสารอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
     2. จัดอาหารให้น่ารับประทาน เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากรับประทานอาหาร ให้อาหารมีกลิ่น สี น่ารับประทานโดยรักษาสีธรรมชาติของอาหารไว้
     3. จัดอาหารให้หลากหลาย อาหารมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น มีนุ่ม กรอบ เหลว เป็นต้น
     4. จัดอาหารให้มี 4 – 5 มื้อ ใน 1 วัน โดยมื้อว่างควรเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ควรเป็นอาหารว่างที่หวานจัด หรืออาหารที่ทอดโดยใช้น้ำมันมากๆ เพราะจะทำให้เด็กได้รับพลังงานมากเกินไป อาจเป็นสาเหตุทำให้เด็กอ้วนได้
     5. จัดอาหารแปลกใหม่ที่มีประโยชน์ให้เด็กทานเสมอๆ ถ้าเด็กไม่ทานก็ไม่ควรบังคับเว้นระยะแล้วให้ลองทานใหม่
     6. รสชาติของอาหารที่จัดให้เด็กไม่ควรรสจัดจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นรสหวาน เค็ม เปรี้ยว
     7. ให้เด็กมีส่วนร่วมในการคิดรายการอาหาร จะทำให้เด็กทานอาหารมากขึ้น
 
อาหารเด็กวัยก่อนเรียนช่วงอายุ 4-6 ปี
             เด็กเป็นวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตเป็นวัยที่มีการเรียนรู้ และสั่งสมประสบการณ์ ตลอดจนมีกิจกรรมการเล่นหรือการออกกำลังกายสูงกว่าวัยอื่น ๆ ร่างกายจึงมีความต้องการสารอาหารต่าง ๆในปริมาณสูง การมีโภชนาการที่ดีเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในวัยนี้จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ และมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
             โภชนาการที่เหมาะสมนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกน้อย เพราะเด็กจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งทางร่างกายและสมองโดยเฉพาะการเจริญเติบโตของสมอง ยังเป็นไปอย่างรวดเร็ว อาหารสำหรับเด็กวัยก่อนวัยเรียน จึงเป็นการวางรากฐานชีวิตที่ดีสำหรับเด็กทั้งในขณะที่อยู่ในวัยนี้ และระยะต่อไป  การขาดอาหารในระยะนี้จะส่งผลให้เด็กมีสติปัญญาการเรียนรู้ด้อยลง การเจริญเติบโตชะงักทำให้ร่างกายแคระแกรน ไม่แข็งแรง เจ็บป่วย และติดเชื้อง่าย มีอัตราการเสียชีวิตสูงพ่อแม่จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารอย่างถูกต้องและเพียงพอกับความต้องการตามวัยด้วย

อาหารที่เด็กวัยก่อนเรียน (อายุ 4-5 ปี) ควรได้รับในแต่ละวัน
             หมวดข้าว ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว และแป้งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญซึ่งร่างกายควรได้รับวันละ 6 ทัพพีเด็กก่อนวัยเรียนเริ่มอยากกินอาหารของผู้ใหญ่ ชอบข้าวสวยนิ่ม ๆ มากกว่าข้าวต้มคุณแม่เสริ์ฟพร้อมแกงจืดเล็กน้อย เพื่อช่วยให้เด็กกลืนง่ายขึ้น
             ผักใบเขียว และผักอื่น ๆเด็กมักจะชอบผักที่มีสีสรรดึงดูดสายตา เช่น แครอท เมล็ดถั่วลันเตา หรือผักบางชนิดเช่น กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ บร็อคโคลี หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาดขาวซึ่งเมื่อต้มสุกจะนิ่มและมีรสหวาน ในปริมาณวันละ 3 ทัพพี หรืออาจจะเป็น 1 ทัพพีในแต่ละมื้อ
             ผลไม้คุณแม่ควรให้ลูกได้เลือกรับประทานผลไม้สดตามฤดูกาล ในปริมาณ 2 ส่วน (1 ส่วนของผลไม้แต่ละชนิดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาด เช่น กล้วยน้ำว้า 1 ผลส้มเขียวหวาน 1 ผลกลาง มะม่วงสุกครึ่งผลเล็ก มะละกอสุก 6 ชิ้นพอคำ)เพื่อช่วยให้เด็กได้รับวิตามินซี วิตามินเอ ใยอาหาร น้ำผลไม้ควรจำกัดปริมาณเมื่อดื่มให้ดื่มเป็นน้ำผลไม้ร้อยเปอร์เซ็นต์ (120 มิลลิลิตร คิดเท่ากับผลไม้ 1 ส่วน)
             นมเด็กควรดื่มนมเป็นประจำวันละ 2-3 แก้วควรเลือกนมชนิดจืด เพื่อฝึกเด็กให้คุ้นเคยกับรสธรรมชาติ ถ้าเด็กปฏิเสธการดื่มนมอาจลองอาหารธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ตซีเรียล ซึ่งต้องกินกับนมหรืออาจเลือกอาหารที่มีส่วนผสมของนม เช่น โยเกิร์ตชีส เป็นต้น นม 1 แก้วของเด็กก่อนวัยเรียน ขนาด 180 มิลลิลิตร หรือชีสขนาด 50-60 กรัม หรือโยเกิร์ต 3/4 ถ้วยตวง และหลังจากที่เด็กอายุ 2 ขวบไปแล้ว อาจเลือกผลิตภัณฑ์พร่องมันเนย
             ไขมันใช้น้ำมันพืชปรุงอาหาร ลดปริมาณของทอดหรือของมัน ให้ใช้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และผลิตภัณฑ์นมพร่องไขมันหรือถ้าเป็นขนมที่มีไขมันมาก ของว่างที่ผลิตจากโรงงานอาหารควรอ่านฉลากอาหารประกอบ
ความต้องการสารอาหารในวัยเด็กก่อนเรียน อายุ 4-6 ปี
             1.พลังงาน เด็กวัยก่อนเรียนต้องการพลังงานเพื่อการเจริญเติบโตและทำกิจกรรมต่างๆ ปัญหาที่พบบ่อยคือ ได้รับอาหารที่ให้พลังงานไม่เพียงพอ ควรให้เด็กวัยนี้กินอาหารอย่างเพียงพอ เด็กอายุช่วง 4-6 ควรได้วันละ 1450 กิโลแคลอรี่ พลังงานที่ได้รับนี้ ควรมาจากคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 50-60ไขมันร้อยละ 25-35 และโปรตีนร้อยละ 10-15 ของพลังงานทั้งหมด
             การคำนวณความต้องการพลังงานเด็กวัยก่อนเรียน อาจทำได้ดังนี้ เด็กอายุหนึ่งปีเต็ม ต้องการพลังงาน 1000 กิโลแคลอรี่ เมื่ออายุ 1 ปีให้บวก 100แคลอรี่ต่อปี
เช่น  เด็กอายุ 4 ปี จะต้องการพลังงาน =1000 + 300 = 1300 กิโลแคลอรี่
โปรตีน  21 กรัม             วิตามินเอ  400 ไมโครกรัม                     วิตามินดี   10ไมโครกรัม
วิตามินซี 45มิลลิกรัม          วิตามินบีหนึ่ง1.0 มิลลิกรัม                       วิตามินบีสอง 1.0 มิลลิกรัม
ไนอาซี 11 มิลลิกรัม         วิตามินบีหก 1.3 มิลลิกรัม                       วิตามินบีสิบสอง1.0 มิลลิกรัม
แคลเซียม 800 มิลลิกรัม     ฟอสฟอรัส 800 มิลลิกรัม                       เหล็ก  10 มิลลิกรัม
สังกะสี  10 มิลลิกรัม          ไอโอดีน 90 ไมโครกรัม

อาหารที่เด็กวัยก่อนเรียน (อายุ 4-5 ปี) ควรได้รับในแต่ละวัน
             หมวดข้าว ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว และแป้งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญซึ่งร่างกายควรได้รับวันละ 6 ทัพพีเด็กก่อนวัยเรียนเริ่มอยากกินอาหารของผู้ใหญ่ ชอบข้าวสวยนิ่ม ๆ มากกว่าข้าวต้มคุณแม่เสริ์ฟพร้อมแกงจืดเล็กน้อย เพื่อช่วยให้เด็กกลืนง่ายขึ้น
             ผักใบเขียว และผักอื่น ๆเด็กมักจะชอบผักที่มีสีสรรดึงดูดสายตา เช่น แครอท เมล็ดถั่วลันเตา หรือผักบางชนิดเช่น กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ บร็อคโคลี หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาดขาวซึ่งเมื่อต้มสุกจะนิ่มและมีรสหวาน ในปริมาณวันละ 3 ทัพพี หรืออาจจะเป็น 1 ทัพพีในแต่ละมื้อ
             ผลไม้คุณแม่ควรให้ลูกได้เลือกรับประทานผลไม้สดตามฤดูกาล ในปริมาณ 2 ส่วน (1 ส่วนของผลไม้แต่ละชนิดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาด เช่น กล้วยน้ำว้า 1 ผลส้มเขียวหวาน 1 ผลกลาง มะม่วงสุกครึ่งผลเล็ก มะละกอสุก 6 ชิ้นพอคำ)เพื่อช่วยให้เด็กได้รับวิตามินซี วิตามินเอ ใยอาหาร น้ำผลไม้ควรจำกัดปริมาณเมื่อดื่มให้ดื่มเป็นน้ำผลไม้ร้อยเปอร์เซ็นต์ (120 มิลลิลิตร คิดเท่ากับผลไม้ 1 ส่วน)
             นมเด็กควรดื่มนมเป็นประจำวันละ 2-3 แก้วควรเลือกนมชนิดจืด เพื่อฝึกเด็กให้คุ้นเคยกับรสธรรมชาติ ถ้าเด็กปฏิเสธการดื่มนมอาจลองอาหารธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ตซีเรียล ซึ่งต้องกินกับนมหรืออาจเลือกอาหารที่มีส่วนผสมของนม เช่น โยเกิร์ตชีส เป็นต้น นม 1 แก้วของเด็กก่อนวัยเรียน ขนาด 180 มิลลิลิตร หรือชีสขนาด 50-60 กรัม หรือโยเกิร์ต 3/4 ถ้วยตวง และหลังจากที่เด็กอายุ 2 ขวบไปแล้ว อาจเลือกผลิตภัณฑ์พร่องมันเนย
             ไขมันใช้น้ำมันพืชปรุงอาหาร ลดปริมาณของทอดหรือของมัน ให้ใช้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และผลิตภัณฑ์นมพร่องไขมันหรือถ้าเป็นขนมที่มีไขมันมาก ของว่างที่ผลิตจากโรงงานอาหารควรอ่านฉลากอาหารประกอบ

ความต้องการสารอาหารในวัยเด็กก่อนเรียน อายุ 4-6 ปี
                1.พลังงาน เด็กวัยก่อนเรียนต้องการพลังงานเพื่อการเจริญเติบโตและทำกิจกรรมต่างๆ ปัญหาที่พบบ่อยคือ ได้รับอาหารที่ให้พลังงานไม่เพียงพอ ควรให้เด็กวัยนี้กินอาหารอย่างเพียงพอ เด็กอายุช่วง 4-6 ควรได้วันละ 1450 กิโลแคลอรี่ พลังงานที่ได้รับนี้ ควรมาจากคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 50-60ไขมันร้อยละ 25-35 และโปรตีนร้อยละ 10-15 ของพลังงานทั้งหมด
                การคำนวณความต้องการพลังงานเด็กวัยก่อนเรียน อาจทำได้ดังนี้ เด็กอายุหนึ่งปีเต็ม ต้องการพลังงาน 1000 กิโลแคลอรี่ เมื่ออายุ 1 ปีให้บวก 100แคลอรี่ต่อปี
เช่น  เด็กอายุ 4 ปี จะต้องการพลังงาน =1000 + 300 = 1300 กิโลแคลอรี่
                     2. โปรตีน  ความต้องการโปรตีนเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวในเด็กสูงกว่าวัยผู้ใหญ่ ในเด็กอายุ 4-6 ปีต้องการโปรตีน 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
                3.วิตามินและเกลือแร่  มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก ถ้าขาดก็จะทำให้เกิดโรคต่างๆได้ เด็กวัยนี้เป็นถ้าได้รับนม 2-3 ถ้วย ก็จะทำให้ได้รับแคลเซียมและฟอสฟอรัสเพียงพอต่อการสร้างกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังได้วิตามินอื่นๆอีก ได้แก่ วิตามินเอ ดี บีสิบสอง บีหนึ่ง และไนอะซินด้วย
                4.เหล็ก เด็กอายุ 1-6 ปี ควรได้รับเหล็ก 10 มก.ต่อวัน การให้อาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กจึงจำเป็น อาหารที่มีธาตุเหล็กมาก ได้แก่ ไข่ เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้งและผักใบเขียว
                5.แคลเซียมเด็กวัยนี้จำเป็นต้องได้รับแคลเซียมในปริมาตรที่เพียงพอในการเจริญเติบโต เด็กวัยนี้จำเป็นต้องได้รับแคลเซียมมากกว่าวัยผู้ใหญ่ 2-3 เท่า อาหารที่มีแคลเซียมสูงสำหรับเด็กวัยนี้ ได้แก่ นมและผลิตภัณฑ์จากนม แคลเซียมในนมนั้นร่างกายสามารถดูดซึมได้มากกว่าแคลเซียมในอาหารอื่น
                     6. สังกะสี มีความจำเป็นในการเจริญเติบโต การขาดสังกะสีจะมีผลให้เกิดการเจริญเติบโตล้มเหลว ความอยากอาหารลดลง เด็กวันนี้ควรได้รับสังกะสี 10 มก. ต่อวัน อาหารทีมีสังกะสีได้แก่ เนื้อสัตว์และอาหารทะเล
ถ้าเด็กได้รับอาหารพวกนม ข้าว เนื้อสัตว์ ปลา อาหารทะเล ถั่ว ผัก และผลไม้ครบแล้ว ก็จะทำให้ได้พลังงาน เกลือแร่ และวิตามินครบตรงตามความต้องการของร่างกาย
                     7. น้ำ เด็กต้องการน้ำ 4-6 แก้วต่อวัน หรือ 1000-1500 มล.

ที่มา : http://110.164.64.133/nutrition/child1-3.php

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น